วันพุธที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2553

"มุ้งนาโน" ฆ่ายุงตายภายใน 6 นาที


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์

ภาพเส้นใยสำหรับทอมุ้งที่ผสมสารฆ่ายุง ซึ่งมียุงตายอยู่หลายตัว
คลิกที่ภาพเพื่อดูขนาดใหญ่ขึ้น
ศ.นพ.สิริฤกษ์ ผอ.นาโนเทค (กลางซ้าย) และ ดร.วีระชัย รมต.วิทย์ (กลางขวา) สาธิตมุ้งนาโนผสมสารฆ่ายุง

ยุงที่นำไปใส่ไว้ในเส้นใยมุ้งที่มีผสมสารฆ่ายุง ทยอยตายหลายตัว

"นาโนเทค" พัฒนามุ้งผสมสารสกัดเลียนแบบ "เก๊กฮวย-ดาวเรือง" ฆ่ายุงตายจากเส้นใยภายใน 6 นาที ทำได้ทั้งแบบเคลือบและผสมลงในเส้นใย ระบุไม่เป็นอันตรายต่อคน เพราะมีตัวรับสารต่างกันจากแมลงและเป็นสารที่ได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก
      
       ศ.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ (นาโนเทค) พร้อม ดร.วีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมเปิดตัว "มุ้งนาโนฆ่า่ยุง" ที่ผสมสาร "เดลตาเมธริน" (Deltamethrin) สารสังเคราะห์เลียนแบบสารในกลุ่ม "ไพเรธรอยด์" (Pyretroid) สารสกัดธรรมชาติจากดอกดาวเรืองและเก๊กฮวย ซึ่งเป็นสารที่ได้รับการแนะนำให้ใช้จากองค์การอนามัยโลก (WHO)
      
       เมื่อตัวรับ (Receptor) ที่ปลายขาของยุง ได้รับสารดังกล่าวจากการชนหรือสัมผัสกับมุ้งที่ผสมสารดังกล่าว จะทำให้ยุงบินช้าลงและตายในที่สุด ทั้งนี้ ยุงแต่ละชนิดมีความไวต่อสารสังเคราะห์ชนิดนี้ได้ต่างกัน โดยยุงรำคาญและยุงก้นปล่องจะไวต่อสารชนิดนี้มากที่สุด โดยจะตายภายใน 6 นาทีหลังจากได้รับสาร แต่คนและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมไม่มีตัวรับสารดังกล่าวจึงไม่ได้รับอันตรายเช่นเดียวกับยุง
      
       ในกระบวนการผลิตนั้นแบ่งได้เป็น 2 แบบ คือ เคลือบสารเดลตาเมธรินลงบนเส้นใยสำหรับมุ้งที่ผลิตขึ้นจากเส้นใยธรรมชาติหรือเส้นใยฝ้าย และผสมสารชนิดนี้ลงในเม็ดพลาสติกเพื่อขึ้นรูปเป็นเส้นใย ซึ่งในวิธีการหลังนั้นทำให้เก็บสารที่ผลต่อการฆ่ายุงได้นานกว่าการนำมุ้งไปชุบ 5 เท่า
      
       ด้าน ดร.ศิระศักดิ์ เทพาคำ ผู้อำนวยการฝ่ายอาวุโส ฝ่ายถ่ายทอดเทคโนโลยีและพัฒนาธุรกิจ นาโนเทค อธิบายว่า จำเป็นต้องใช้สารสังเคราะห์เลียนแบบสารสกัดจากดาวเรือง เนื่องจากสารสกัดจากธรรมชาติจะสลายตัวเมื่อผ่านความร้อน ทั้งนี้หากใช้สารที่คั้นจากดอกดาวเรืองหรือดอกเก๊กฮวยไปฆ่ายุงจะทำให้ยุงตายได้เช่นกัน
      
       พร้อมกันนี้ ดร.วีระชัยกล่าวว่า เทคโนโลยีนี้จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถของไทยซึ่งส่งออกมุ้งเป็นอันดับต้นๆ และยังประยุกต์ใช้กับเสื้อผ้าเพื่อสนับสนุนการส่งออกสิ่งทอ หรือส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์โดยผลิตชุดกันยุงสำหรับนักท่องเที่ยว รวมถึงผลิตเครื่องนุ่งห่มกันยุงให้แก่ตำรวจและทหารในจังหวัดชายแดนได้
      
       อย่างไรก็ดี นวัตกรรมเส้นใยมุ้งที่ผสมสารนาโนนี้ เพิ่งประสบความสำเร็จในระดับห้องปฎิบัติการ ยังต้องศึกษาเพิ่มเติมหากจะพัฒนาให้มีการผลิตจำนวนมาก ในอุตสาหกรรมหรือเชิงพาณิชย์ต่อไป.

วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ผีพนันเข้าสิง 'เด็ก' ใครคือตัวการ !?!


โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์
"ศิริกาญจน์ ธนวัฒน์เดชากุล"
       ปฏิเสธไม่ได้ว่า สังคมไทย ณ เวลานี้ เด็กและเยาวชนกำลังถูกรุมล้อมด้วยอบายมุขอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะการพนันที่แทรกซึมอยู่ทุกหย่อมหญ้า และพร้อมเข้ามาทำลายอนาคตของเด็กๆ ได้ทุกเมื่อ
      
       ทพญ.กุณฑีรา ตันติรังสี ผู้ช่วยผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวยอมรับว่า ปัจจุบันมีสิ่งล่อตาล่อใจเกี่ยวกับการพนันจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นเกมส์ออนไลน์ กีฬา ซึ่งเริ่มระบาดมาตั้งแต่เด็กประถมขึ้นไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ รวมถึงสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งจุดเริ่มต้นในการแก้ไขอยู่ที่ครอบครัว พ่อแม่ต้องสอนลูกให้เข้าใจว่าเกมเล่นได้เพื่อความสนุกสนานอย่าคิดเอาจริงเอาจัง
      
       ขณะที่ "ศิริกาญจน์ ธนวัฒน์เดชากุล" อาจารย์ชำนาญการพิเศษ สำนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) และผู้แทนโครงการติดตามสภาวะการณ์เด็กและเยาวชน (Child Watch) ได้กล่าวถึงสาเหตุว่า จากผลสำรวจของ Child Watch ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล เกี่ยวกับพฤติกรรมของเด็กกับการพนันมีปัจจัยอยู่ 3 ด้าน คือ การศึกษา สังคม และสุขภาพ
      
       "คนส่วนใหญ่มองว่า สาเหตุหลักๆ มาจากการการนำเสนอข่าวสารของสื่อมวลชนเป็นอันดับแรก รองลงมาเป็นการบังคับใช้กฎหมายในบางพื้นที่ที่ยังไม่มีมาตรการที่เข้มงวดและเด็ดขาด รวมถึงระบบการศึกษาที่ไม่มีการสอนเรื่องโทษของการพนันอย่างจริงจัง อีกทั้งเรื่องวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ใช้คำพูดสื่อถึงการพนันและคำท้าทายกันจนติดปาก เช่น พนันกันไหมว่าวันนี้ฝนต้องตกแน่ๆ เลย การหลีกเลี่ยงให้เด็กออกห่างจากการพนัน พ่อแม่ต้องให้เวลาอยู่กับลูก ถ้ามีความรักความอบอุ่นทุกสิ่งทุกอย่างก็ดีขึ้น อยากให้ลูกเป็นแบบไหนก็ทำตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็นและเขาจะปฏิบัติตามเอง" ผู้แทนโครงการ Child Watch ให้คำแนะนำ
      
       ด้านเยาวชนคนรุ่นใหม่อย่าง "ทับทิม - อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์" ดารานักแสดง บอกว่า โชคดีที่คนในครอบครัว และคนรอบข้างไม่มีใครติดการพนันเลย เพราะทุกคนรู้ดีว่า "การพนัน" คือการเสี่ยงโชคจะได้หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาและความบังเอิญ จึงอยากให้ทุกคนหันมาพึ่งความสามารถของตัวเองด้วยการเก็บออมเงิน ใช้จ่ายอย่างประหยัด ซึ่งส่วนตัวเธอเองก็เรียนมาทางด้านการบริหาร จึงรู้จักการเก็บเงินและนำไปลงทุนทำธุรกิจส่วนตัว เพราะจะได้ฝึกทักษะควบคู่ไปกับการเรียน ถ้ามีการวางแผนที่ดีก็จะสามารถเพิ่มรายได้ให้สูงขึ้นหลายเท่าตัว ไม่ต้องพึ่งดวงจากการเสี่ยงโชคเหมือนกับการเล่นพนัน
      
       เช่นเดียวกับ "อ๊อฟ-ชนะพล สัตยา" ถึงแม้จะเคยพบเห็นคนรอบข้างเล่นการพนัน ทั้งในรูปแบบต่างๆ มากมายในชีวิตประจำวัน แต่ก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน "ผมเป็นคนที่ชอบเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆ เป็นประจำก็ยังหนีไม่พ้นเรื่องของการพนัน แม้จะไม่ใช่การพนันด้วยเงินทองหรือของมีค่า แต่เป็นการพนันด้วยคำพูดในการแข่งขันว่าใครจะแพ้หรือชนะ ซึ่งมันสามารถปลูกฝังให้เราติดนิสัยของการพนันขันแข่งได้ ซึ่งผมก็พยายามหลีกเลี่ยงที่จะพูดท้าทายกลับไป"
      
       อย่างไรก็ตาม ดาราหนุ่มคนนี้ ฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ว่า การปลูกฝังเรื่องโทษของการพนันควรเริ่มต้นตั้งแต่ในครอบครัวจะดีที่สุด เพราะถ้าคนในครอบครัวไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่หรือผู้ปกครองเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเด็กๆ แล้ว พวกเขาจะมีภูมิคุ้มกัน เมื่อถึงเวลาต้องออกไปเผชิญกับสังคมนอกบ้าน ที่เต็มไปด้วยการพนันและอบายมุขต่างๆ เด็กจะรู้จักการหลีกเลี่ยงและไม่เข้าไปข้องเกี่ยวกับการพนัน และจะเป็นการดีที่ทุกคนช่วยให้สังคมและอนาคตของชาติอยู่ห่างไกลจากการพนันได้
อ๊อฟ-ชนะพล, ทับทิม- อัญรินทร์ และจอห์น-วิญญู (เรียงจากซ้ายไปขวา)